วันโอลิมปิก
เป็นการเฉลิมฉลองวันคล้ายวันก่อตั้งคณะกรรมการโอลิมปิกนานาชาติ เมื่อวันที่ 23
มิถุนายน ค.ศ.1894 และได้ถือกำเนิดยุทธศาสตร์โอลิมปิกขึ้นนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
สำหรับผู้ที่ริเริ่มก่อตั้งคณะกรรมการโอลิมปิกนานาชาติคือท่านบารอน ปิแอร์ เดอ
คูเบอแตงค์ ต่อมาท่านได้รับการยกย่องให้เป็นบิดาของโอลิมปิกเกมส์สมัยใหม่ ดังนั้น
วันที่ 23 มิถุนายนของทุกปี คณะกรรมการโอลิมปิกนานาชาติ และคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งชาติ
จำนวน 206 ชาติทั่วโลก จึงได้จัดงานมหกรรมการเฉลิมฉลองวันโอลิมปิกขึ้น
เพื่อระลึกถึงคุณงามความดีของผู้ที่มีจิตวิญญาณโอลิมปิกที่ได้ทิ้งมรดกโอลิมปิกอันมีคุณค่ามหาศาลไว้ให้เด็กและเยาวชนรุ่นหลังได้เรียนรู้และสืบทอดอุดมการณ์โอลิมปิกตราบนานเท่านาน
วิวัฒนาการของกิจกรรมวันโอลิมปิกได้พัฒนาต่อเนื่องมาเป็นลำดับดังนี้
ปฐมบทกิจกรรมวันโอลิมปิกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน ค.ศ.1894 ซึ่งเป็นวันถือกำเนิดคณะกรรมการโอลิมปิกนานาชาติ
และเป็นจุดเริ่มต้นของยุทธศาสตร์โอลิมปิก โดยมีสมาชิกร่วมการก่อตั้งทั้งสิ้น 12
ชาติ พร้อมลงคะแนนเสียงรับแนวความคิดของคูเบอแตงค์ในการรื้อฟื้นการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์สมัยใหม่ขึ้นเป็นครั้งแรก
ณ กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ
23
มิถุนายน ค.ศ.1948 ได้มีการจัดงานวันโอลิมปิกโลก (World Olympic Day) ขึ้นเป็นครั้งแรก โดยมีคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งชาติ 9 ชาติ ประกอบด้วย
ออสเตรีย เบลเยี่ยม กรีซ แคนาดา อังกฤษ โปรตุเกส สวิตเซอร์แลนด์ อุรุกวัย และเวเนซุเอล่า
ซึ่งทั้ง 9 ชาติดังกล่าวได้จัดงานเพื่อเฉลิมฉลองการก่อตั้งคณะกรรมการโอลิมปิกนานาชาติเป็นครั้งแรก
ค.ศ.1978 ธรรมนูญโอลิมปิก (Olympic Charter) ได้มีการระบุบทบัญญัติที่ว่าด้วยการส่งเสริมให้สมาชิกของคณะกรรมการโอลิมปิกนานาชาติ
โดยเฉพาะคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งชาติให้ดำเนินการจัดงานวันโอลิมปิกขึ้น
เพื่อส่งเสริมยุทธศาสตร์โอลิมปิกและเป็นการเฉลิมฉลองการก่อตั้งคณะกรรมการโอลิมปิกนานาชาติ
23
มิถุนายน ค.ศ.1978 คณะกรรมาธิการฝ่ายกีฬา คณะกรรมการโอลิมปิกนานาชาติ ได้นำแนวคิดการจัดงานเฉลิมฉลองวันโอลิมปิกเป็นการวิ่งวันโอลิมปิก
(Olympic
Day Run) โดยกำหนดระยะทางวิ่ง 10 กิโลเมตร และคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งชาติใช้แนวคิดนี้จัดกิจกรรมวิ่งวันโอลิมปิก
จำนวน 45 ชาติทั่วโลก
23
มิถุนายน ค.ศ.2008 ครบรอบ 60 ปี การจัดงานเฉลิมฉลองวันโอลิมปิก และเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนากิจกรรมการเฉลิมฉลองวันโอลิมปิกให้กว้างขวางมากขึ้น
โดยจัดกิจกรรมวันโอลิมปิกบนพื้นฐานการส่งเสริมค่านิยมโอลิมปิกให้กับเด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วทุกมุมโลกได้มีส่วนร่วมกับกิจกรรมวันโอลิมปิก
มีนาคม
ค.ศ. 2009 แนวคิดขยับกาย ขยายการเรียนรู้ สู่การค้นพบ (Move Learn
Discover) เป็นแนวคิดที่ผสมผสานการเรียนรู้ค่านิยมโอลิมปิกกับบริบทกิจกรรมที่หลากหลายของแต่ละประเทศ
โดยใช้วันโอลิมปิกเป็นสื่อให้กับเด็ก เยาวชน และประชาชนได้ลงมือปฏิบัติกิจกรรมและซึมซับค่านิยมโอลิมปิกไปพร้อมๆกับการเฉลิมฉลองการก่อตั้งคณะกรรมการโอลิมปิกนานาชาติ
วันโอลิมปิก เป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมสำหรับเด็ก เยาวชน และประชาชนที่จะได้เรียนรู้ค่านิยมโอลิมปิกผ่านกิจกรรมสาระการเรียนรู้โอลิมปิกศึกษาจากหลักปรัชญาสู่การลงมือปฏิบัติ ประกอบด้วยหลัก 3 ประการ คือ
1. การเชื่อมโยงกิจกรรมการเรียนรู้จากค่านิยมโอลิมปิก (เช่น ประวัติความเป็นมาของโอลิมปิกเกมส์ ความหมายของสัญลักษณ์โอลิมปิก คบเพลิงโอลิมปิก ไฟโอลิมปิก คติพจน์โอลิมปิก คำปฏิญาณโอลิมปิก เป็นต้น)
2. การสร้างงานศิลปะจากกิจกรรมการเรียนรู้ค่านิยมโอลิมปิก (เช่น การวาดภาพ การระบายสี การประดิษฐ์สัญลักษณ์โอลิมปิก การร้องเพลง การถ่ายภาพ เป็นต้น)
3. กิจกรรมการเคลื่อนไหว ซึ่งเป็นหลักสำคัญของการเรียนรู้ค่านิยมโอลิมปิก (เช่น กิจกรรมทางกาย (physical activities) ทุกชนิดที่สอดแทรกการรับรู้ค่านิยมโอลิมปิก รวมถึงเกมการละเล่นและการแข่งขันกีฬา เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ ทักษะ และประสบการณ์จากหลักการและค่านิยมโอลิมปิก)
วันโอลิมปิก เป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมสำหรับเด็ก เยาวชน และประชาชนที่จะได้เรียนรู้ค่านิยมโอลิมปิกผ่านกิจกรรมสาระการเรียนรู้โอลิมปิกศึกษาจากหลักปรัชญาสู่การลงมือปฏิบัติ ประกอบด้วยหลัก 3 ประการ คือ
1. การเชื่อมโยงกิจกรรมการเรียนรู้จากค่านิยมโอลิมปิก (เช่น ประวัติความเป็นมาของโอลิมปิกเกมส์ ความหมายของสัญลักษณ์โอลิมปิก คบเพลิงโอลิมปิก ไฟโอลิมปิก คติพจน์โอลิมปิก คำปฏิญาณโอลิมปิก เป็นต้น)
2. การสร้างงานศิลปะจากกิจกรรมการเรียนรู้ค่านิยมโอลิมปิก (เช่น การวาดภาพ การระบายสี การประดิษฐ์สัญลักษณ์โอลิมปิก การร้องเพลง การถ่ายภาพ เป็นต้น)
3. กิจกรรมการเคลื่อนไหว ซึ่งเป็นหลักสำคัญของการเรียนรู้ค่านิยมโอลิมปิก (เช่น กิจกรรมทางกาย (physical activities) ทุกชนิดที่สอดแทรกการรับรู้ค่านิยมโอลิมปิก รวมถึงเกมการละเล่นและการแข่งขันกีฬา เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ ทักษะ และประสบการณ์จากหลักการและค่านิยมโอลิมปิก)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น